วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555



การทดลอง: แสงดาวที่หายไป







เพื่อคลายข้อสงสัยนี้ เราไปร่วมค้นหาคำตอบกับการทดลองสนุก ๆ  ในตอนที่ชื่อว่า .?แสงดาวที่หายไป?

อุปกรณ์

1. ซองจดหมายสีขาว 1 ซอง
2. กระดาษแข็ง 1 แผ่น (ขนาดเล็กว่าซองจดหมาย)
3. ที่เจาะกระดาษ หรือไม้เสียบลูกชิ้น
4. ไฟฉาย

วิธีการทดลอง

1.  เจาะรูบนแผ่นกระดาษแข็งประมาณ 10-15 รู แล้วนำใส่ลงในซองจดหมาย ดังภาพที่1
2.  เลือกทำการทดลองในห้องที่มีแสงสว่างปกติ ให้ถือซองจดหมายที่ระดับสายตา แล้วส่องไฟฉายไปบริเวณด้านหน้าของ
     ซองจดหมาย ดังภาพที่ 2 โดยให้ไฟฉายห่างจากซองจดหมายประมาณ 2 นิ้ว สังเกตเห็นอะไรบ้าง
3.  ให้ถือซองจดหมายไว้ที่ตำแหน่งเดิม แต่เปลี่ยนตำแหน่งของไฟฉาย        โดยเลื่อนไฟฉายไปฉายด้านหลังซองจดหมาย
     ดังภาพที่ 3 สังเกตสิ่งที่มองเห็นจากภายในซองจดหมาย
 
          จากผลการทดลอง จะพบว่าเมื่อส่องไฟฉายบริเวณด้านหน้าซองจดหมาย จะเห็นเพียงแสงสว่างจ้าของไฟฉายสะท้อนเข้าตา  แต่เมื่อเปลี่ยนไปส่องด้านหลังซองจดหมาย ก็จะสามารถมองเห็นแสงจากไฟฉายบางส่วนลอดผ่านรูเล็ก ๆ ที่เจาะไว้ ดูคล้ายกับดาวที่ส่องแสงระยิบระยับในเวลากลางคืน


         การที่มนุษย์มองเห็นสิ่งต่าง ๆ  ได้นั้นเนื่องจากมีแสงจากวัตถุสะท้อนเข้าสู่ตา ผ่านรูม่านตา (Pupil) ที่อยู่ระหว่างม่านตา (Iris) ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงสีของดวงตา  คนทั่วไปมักเรียกรูม่านตาว่า ตาดำ  ม่านตาจะควบคุมแสงให้ผ่านเข้าสู่ตาในปริมาณที่เหมาะสม คือ ในที่มีแสงสว่างมาก ม่านตาปรับรูม่านตาให้แคบลง เพื่อลดปริมาณแสงที่ผ่านเข้าสู่ตา ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่างน้อย รูม่านตาจะขยายกว้างออก ทำให้แสงผ่านเข้าสู่ตาได้มาก จึงมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น  ในกรณีที่เราส่องไฟฉายไปด้านหน้าของซองจดหมาย แสงจ้าของไฟฉายจะสะท้อนกับกระดาษเข้าสู่ตา ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นรูเล็ก ๆ บนกระดาษได้ เช่นเดียวกับการที่แสงอาทิตย์ส่องกระทบกับบรรยากาศโลก  แสงเหล่านี้จะกลบแสงดาวให้หายไปในเวลากลางวัน  ทั้ง ๆ ที่ดาวดวงน้อยใหญ่เหล่านั้นยังคงส่องสว่างอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเราส่องไฟฉายเข้าด้านหลังซองจดหมาย ปริมาณแสงด้านหน้าซองจดหมายที่น้อยกว่า จะทำให้รูม่านตาเปิดกว้าง เพื่อรับแสงที่ลอดผ่านรูบนกระดาษมา ทำให้เราสามารถมองเห็นรูบนแผ่นกระดาษได้อย่างชัดเจน
เราจะเห็นดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจนในเวลากลางคืน โดยเฉพาะคืนเดือนมืดในชนบทจะเห็นดาวบนฟ้ามากมาย ยกเว้นในคืนที่พระจันทร์ส่องสว่างมาก ๆ หรือในเมืองที่มีแสงไฟรบกวน  แสงจากดาวก็จะหายลับไป

ที่มา:http://www.nsm.or.th/nsm2009/index.php?option=com_nsmcontents&views=article&id=1686&Itemid=92

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น